ตามที่มอบหมาย นางสาวปรัชญวรรณ วนานันท์ นักวิชาการศึกษาเชี่ยวชาญ รักษาการในตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านระบบบริหารจัดการศึกษา พร้อมด้วย นายบุญชื่น วิบูลย์ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมการบริหารการศึกษาในภูมิภาค กองส่งเสริมและพัฒนาการบริหารการศึกษาในภูมิภาค สป. เข้าประชุมแนวทางการขับเคลื่อนการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ในห้วง 6 เดือนหลังและปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมี พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานการประชุม
กระทรวงศึกษาธิการ จึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและสร้างความพึงพอใจให้กับประชาชน โดยมีการปรับแผนงาน/โครงการ และงบประมาณที่ได้รับในการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกัน
ยาเสพติดในสถานศึกษาในห้วง 6 เดือนหลัง รองรับการเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2567 ดังนี้
- ขับเคลื่อนการดำเนินงานในพื้นที่แพร่ระบาดยาเสพติด 389 อำเภอเป็นลำดับแรกสุด เป็นพื้นที่หลักในการระดมทรัพยากรดําเนินงาน โดยได้จัดสรรงบประมาณให้กับพื้นที่เพื่อการป้องกัน เฝ้าระวัง และดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่แพร่ระบาดรุนแรง
- มุ่งเป้าหมายเยาวชนวัยเสี่ยง อายุ 13 – 19 ปี (ระดับมัธยมศึกษา/เทียบเท่า) เป็นลำดับแรกสุดในการ ดำเนินมาตรการป้องกัน เฝ้าระวัง เช่น กิจกรรมตามแผนงบบูรณาการยาเสพติด (ค่ายทักษะชีวิตรวมพลังเด็กและเยาวชน / การดูแลช่วยเหลือ ให้คำปรึกษา / การให้โอกาสทางการศึกษาจนจบการศึกษาภาคบังคับ / กิจกรรมเครือข่ายเยาวชน ฯลฯ)
- รณรงค์ประชาสัมพันธ์เชิงรุกบนพื้นที่ออนไลน์ เช่น กิจกรรมออนไลน์ TikTok เป็นต้น เพื่อปลุกพลังการ
มีส่วนร่วมของเยาวชนในการสื่อสารสร้างการรับรู้โทษพิษภัยยาเสพติด การรู้เท่าทัน ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวยาเสพติด โดยเฉพาะปัญหายาบ้าที่เป็นปัญหายาเสพติดของประเทศไทย โดย ปปส. ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ
จัดกิจกรรมประกวด TikTok เป้าหมายได้แก่ มัธยมต้น มัธยมปลาย+อาชีวะ รวม สกร. ทั้งนี้กระทรวงศึกษาธิการจะร่วมดำเนินการและประชาสัมพันธ์โรงเรียนเข้าร่วมกิจกรรม ตั้งแต่ห้วงเปิดภาคเรียนที่ 1/2567 (พ.ค. เป็นต้นไป)
ทั้งนี้ ประธานได้ขอความร่วมมือกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับกรมราชทัณฑ์ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ในการร่วมกันจัดการศึกษาให้แก่ผู้ต้องขังเมื่ออยู่ในเรือนจำและสถานพินิจ ซึ่งพบว่า ผู้ต้องขังในเรือนจำส่วนใหญ่มีการศึกษาต่ำกว่าเกณฑ์ภาคบังคับ หากได้รับการศึกษาหรือมีวิชาชีพ จะลดปัญหาการกระทำผิดเกี่ยวกับคดียาเสพติดได้